|
| ||||
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า / ตราสินค้า นั้น แสดงถึงสิทธิและความเป็นเจ้าของของผู้ที่ได้จดทะเบียน ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์คุ้มครองตามกฎหมาย ป้องกันผู้อื่นลอกเลียน ก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ ดังนี้ 1. เครื่องหมายการค้า ที่จดทะเบียนแล้วจะมีอายุการคุ้มครอง 10 ปี เมื่อครบกำหนดสามารถที่จะต่ออายุได้เป็นคราว ๆ คราวละ 10 ปี 2. มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าของท่าน 3. มีสิทธิในการทำสัญญาอนุญาตหรือโอนสิทธิ ให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของท่าน 4. มีสิทธิฟ้องร้องและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ ในกรณีที่มีผู้ละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าของท่าน เครื่องหมายการค้า มี 4 ประเภท ดังนี้ 1. เครื่องหมายการค้า (Trademark): เป็นเครื่องหมายที่ใช้กำกับสินค้า เพื่อแสดงว่า สินค้า ที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับ สินค้า ที่ใช้เครื่องหมายของผู้อื่น เช่น AIS, DTAC 2. เครื่องหมายบริการ (Service Mark): เป็นเครื่องหมายที่ใช้กับธุรกิจบริการ เพื่อแสดงว่า บริการ ที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับ บริการ ที่ใช้เครื่องหมายของผู้อื่น เช่น รูปดอกจำปีของการบินไทย 3. เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark): เป็นเครื่องหมายที่ใช้รับรองคุณภาพในสินค้าหรือบริการของผู้อื่น เช่น เครื่องหมายเชลล์ชวนชิม 4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark): เป็นเครื่องหมายการค้าหรือบริการที่ใช้โดยบริษัท สมาคม สหกรณ์ สหภาพ สมาพันธ์ หรือรัฐวิสาหกิจ องค์กร์ในกลุ่มเดียวกัน เช่น รูปช้างในตะกร้อของเครือปูนซีเมนต์ไทย อัตราค่าบริการ จดทะเบียนกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา เครื่องหมายละ 10,000 บาท สำหรับสินค้าไม่เกิน 1 รายการ ถ้าเกิน คิด 500 บาท ต่อหนึ่งรายการ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น